iz net tv

Saturday 8 December 2012

เรื่องย่อ ละคร เหนือเมฆ2 มือปราบจอมขมังเวทย์ ตอน2 ช่อง3




ตอนที่ 2
แพรไพลินและกิตเผชิญหน้ากันอย่างแหลมคม กิตถามว่าตนจะฆ่าระรินทำไม เธอบอกว่าระรินสลัดรักผู้กองเพราะผู้กองถูกสอบสวนทางวินัยคดีบุกรุกป่าสงวน

กิต ยังพูดบ่ายเบี่ยงดิ้นรนให้พ้นข้อสงสัย แต่ถูกแพรไพลินดักไว้หมดทุกทาง โดยเฉพาะเรื่องที่ระรินเป็นแกนนำเอ็นจีโอที่กำลังสืบหาความจริงคดีทุจริต ถามเขาอย่างเป็นต่อว่า

“ผู้กองคงคิดว่าลบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ไปหมดแล้ว ฉลาด...แต่ไม่เฉลียวค่ะ ระรินอัพโหลดข้อมูลทั้งหมดไว้ที่เว็บไซต์ออนไลน์” พูดแล้วจ่อปืนไปตรงหน้า “ผู้กองถูกจับแล้วค่ะ”

กิตสู้อย่างจนตรอก จับข้อมือที่ถือปืนของแพรไพลินบิดจนปืนร่วง ตัวเธอก็ถูกบิดข้อมือจนล้มลงกับพื้น กิตเย้ยว่าผู้หญิงต่อให้เก่งยังไงก็ต้องแพ้ผู้ชาย

“สมมติฐานมีข้อยกเว้น” แพรไพลินลุกขึ้นพุ่งเข้าใส่กิตอย่างรวดเร็ว เธออ่านประวัติเขามาอย่างละเอียดแล้วรู้ว่า คนดื่มเหล้าจัดอย่างเขานั้น ถ้าถูกโจมตีตับจะเจ็บปวดมากกว่าปกติ 2 เท่า รู้ว่าเขาเคยโดนยิงที่หัวเข่าและผ่าตัดมา 3 ครั้งแล้ว และรู้ว่าเขาหัวไหล่หลุดมีโอกาสจะหลุดอีก 70% เธอจึงโจมตีจุดอ่อนทุกจุดของเขาจนร้องลั่น

แต่พริบตานั้น มีชายอีกคนเข้ามาซ้อนร่างแพรไพลินไว้ โปะยาสลบใส่เธอทันที กิตพูดอย่างผยองว่าตนไม่เคยทำงานคนเดียว ที่แท้เขาคนนั้นคือหมวดที่เป็นคู่หูของกิตนั่นเอง เขาถามกิตว่าจะเอายังไงต่อ กิตบอกว่าผู้หญิงคนนี้รู้เยอะมาก

กุ๊บกิ๊บที่ แพรไพลินนัดไปทานอาหารกัน 6 โมงเย็นชวนเพื่อนจากเนติเทคฯ แต่งตัวมายืนรอกันอยู่หน้าบ้านพัก กุ๊บกิ๊บร้องถามแพรไพลินว่า พวกตนมารออยู่หน้าบ้านแล้ว แต่งตัวเรียบร้อยหรือยัง

“เอาตัวหมอแพรไพลินออกไปทางประตูหน้า” กิตบอกหมวดที่ประคองแพรไพลินอยู่

เวลา เดียวกันนั้น นภากำลังเอาปืนมาถอดทำความสะอาดและตรวจเช็ก เห็นมีการเคลื่อนไหวผิดปกติที่บ้านหลังนั้น เขม้นมองเห็นกิตอุ้มแพรไพลินออกมา เขาบอกกุ๊บกิ๊บว่าเข้าไปเจอหมอหมดสติอยู่ คงต้องรีบพาไปโรงพยาบาล

กุ๊บกิ๊บกับเพื่อนหลงเชื่อพากันมองตามอย่างเป็น ห่วง แต่พอกิตอุ้มแพรไพลินไปไว้ในรถ เขาใส่กุญแจมือเธอทันที หมวดขึ้นนั่งที่คนขับตะบึงรถไปอย่างเร็ว ส่วนกิตนั่งเบาะหลังคอยคุมแพรไพลิน กุ๊บกิ๊บกับเพื่อนเป็นห่วงขึ้นรถจะขับตามไป แต่จนแล้วจนรอดก็สตาร์ตไม่ติด

นภารู้โดยสัญชาตญาณว่ามีเรื่องผิดปกติแน่ เธอขับรถตามรถกิตไปทั้งที่เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว

แพรไพลินเริ่มรู้สึกตัว ถูกกิตเตรียมฉีดยาเสพติดให้ เธอดิ้นสุดแรงเกิด ถูกกิตตบสลบไปอีกรอบ

ooooooo

นภาขับรถไล่ตามรถกิตไปอย่างกระชั้นชิด เพื่อสกัดรถคันนั้นให้ได้ เธอยิงใส่พลางโทรศัพท์ขอกำลังสนับสนุนด่วนที่สุด

กิตชะโงกหน้าออกมายิงตอบโต้ หมวดคนขับมองจากกระจกส่องหลังเห็นผู้ไล่ตามโผล่ออกมายิงอีก ร้องบอกกิต

“งานเข้าแล้วล่ะผู้กอง คนที่ผู้กองกำลังจัดหนักน่ะ ผบ.นภา...เมียนายกฯ งานนี้ถ้าจัดไม่ถึงตาย...เราก็ตายล่ะ!”

“จัด หนัก จัดเต็ม!” กิตตะโกนอย่างบ้าเลือด หันไปคว้าอาวุธสงครามมากมายในรถมาระดมยิง รถนภาถูกยิงที่กระโปรงรถเกิดควันโขมง เธอกระโดดลงจากรถไล่ยิงมันอีก ถูกกิตขว้างระเบิดใส่ เธอกระโดดหลบ

พอ โผล่ออกมาเห็นรถกิตตีโค้งอ้อมเนินเขาไป นภาวิ่งตัดเขาไปดักทัน เธอพุ่งออกไปยืนจังก้าขวางถนนยกปืนพร้อมยิง กิตสั่งหมวดให้ชนเลย! รถพุ่งเข้าใส่นภา สวนกับกระสุนที่เธอสาดใส่ไม่ยั้ง!

ขณะนั้นเอง แพรไพลินรู้สึกตัว เธอรู้สถานการณ์ทันที พุ่งเข้าใส่กิตที่กำลังชะโงกไปยิงกับนภา กิตเกือบตกรถ แพรไพลินฉวยโอกาสนั้นเปิดประตูรถกระโดดลงไป กิตดึงตัวเองกลับเข้าไปในรถ

นภา เห็นแพรไพลินกระโดดลงมาก็ระดมยิงใส่รถกิต หมวดคนขับถูกกระสุนเจาะหัวตายคาพวงมาลัย รถหมุนติ้วพุ่งมาทางนภา เธอกะจังหวะหมุนของรถแล้วก้มหมอบ รถหมุนข้ามเธอไปตกลงไปด้านล่างระเบิดตูม!!

ooooooo

คืนนี้ที่บ้านพักของนภากลายเป็นที่พักพิงและสถานที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมื่อค่ำนี้

เพชรแท้แม่ของแพรไพลินโทร.หาเธอ แต่เมื่อกุ๊บกิ๊บเอาโทรศัพท์ไปให้ เธอบอกว่าไม่ว่างเพราะต้องรีบไปสรุปหลักฐาน ไม่ยอมรับสาย

นภา สังเกตอยู่ เมื่อเข้าไปนั่งคุย แพรไพลินขอบคุณที่ช่วยตน ถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตราย นภาตอบยิ้มๆว่า คงเป็นสัญชาตญาณ ชมเธอว่าถ้าไม่ได้เธอสำนักงานสืบฯก็คงจับตัวผู้กองกิตกับพวกไม่ได้ แพรไพลินตอบกลับไปยิ้มๆด้วยคำพูดของนภาว่า “หนูคงทำตามสัญชาตญาณ...”

นภา คุยกับแพรไพลินอย่างสนิทสนม บอกว่า ตนเป็นเพื่อนเพชรแท้สมัยเรียนมัธยมมาด้วยกัน และมีลูกสาวโตเท่าๆกับเธอ แล้วจึงเลียบเคียงถามว่า ท่าทางเธอกับแม่จะมีปัญหากันอยู่ เดาว่าทะเลาะกันใช่ไหม เพราะถ้าถึงขั้นเสี่ยงชีวิตเจียนตายแล้วยังไม่ยอมบอกแม่ก็ไม่ใช่เรื่อง ธรรมดาแน่

แล้วนภาก็เล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังว่า...

“ลูกสาวฉัน ก็คงอายุพอๆกับหนู เห็นหนูแล้วก็อดคิดถึงลูกสาวไม่ได้...ฉันกับฟ้า เราเคยมีเรื่องไม่เข้าใจ ...ไม่มองหน้ากันหลายสิบปี...สุดท้ายไม่เคยมีใครมีความสุข...หนูรู้ไหม วันที่เราลดทิฐิหันมาทำความเข้าใจกัน เราถึงพบว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครรักกัน...เท่ากับเราสองแม่ลูกอีกแล้ว”

แพรไพลินฟังอย่างสงบ สนใจ นภาเอามือแตะบ่าเธอเชิงให้กำลังใจ ขณะเอ่ย...

“หนู แพร...หนูอยู่ในท้องแม่เพชร เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมาตลอด 10 เดือน เชื่อฉันเถอะ ระหว่างแม่กับลูกไม่มีอะไรมาทำลายความผูกพันระหว่างกันไปได้ ปรับความเข้าใจกับแม่เสียเถอะนะ”
เมื่อนภาออกไปแล้ว แพรไพลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดไปที่ชื่อ “แม่เพชรแท้” แล้วทำท่าจะโทร.ออก แต่แล้วก็ไม่โทร. วางโทรศัพท์คว่ำไว้ตรงนั้นแล้วเดินออกไป

คืนนี้เมฆา โทรศัพท์ถึงนภาด้วยความเป็นห่วง พลางก็เปิดทีวีเช็กข่าวไปด้วย นภาบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงตนไม่เป็นอะไร เมฆาเตือนว่าอย่าลืมว่าตัวเองไม่ได้เป็น ผบ.นภาแล้ว

นภาถามว่า ได้ข่าวเขาขัดแย้งกับจักรหรือ เมฆาเชื่อว่ารองอนันต์น่าจะเอาอยู่ อย่างไรเสียตนก็ยอมทำตามนายทุนพรรคไม่ได้ บอกเธอให้ดูแลตัวเอง แล้วค่อยพบกันที่กรุงเทพฯ ก่อนตัดสายหันไปดูรองอนันต์ในข่าวทีวีต่อ

ooooooo

ที่ บ้านรองอนันต์...จักรนั่งรถคันหรูเข้าไป ทันใดก็ถูกการ์ดของอนันต์เดินมาล้อมรถอย่างไม่พอใจ บอกว่ารองอนันต์แจ้งแล้วว่าไม่มีอะไรจะเจรจา เชิญกลับไปได้

“แต่ฉันต้องการพบรองอนันต์วันนี้! และเดี๋ยวนี้!” จักรยื่นคำขาด

เหล่า บอดี้การ์ดชักปืนออกมา ทันใดก็ชะงักเมื่อวิญญูที่ปรึกษาส่วนตัวของจักรก้าวลงจากอีกด้านของรถด้วย มาดเนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว จ้องหน้าบอดี้การ์ดเรียงตัว ทุกคนยืนแข็งทื่อตาลอยไปทันที วิญญูพูดเสียงเย็นทรงอำนาจว่า

“คุณจักรต้องการพบรองนายกฯอนันต์”

วิญญู เดินนำเข้าไปข้างในอย่างสง่าผ่าเผย จักรรีบตาม วิญญูหันมองเหล่าบอดี้การ์ดทีละคนอีกครั้ง พวกนั้นพากันนอนดิ้นทุรนทุรายอย่างเจ็บปวดกับพื้นทีละคน ...ทีละคน!

รอง อนันต์โกรธมาก ถามว่าคิดว่าตัวเองเป็นใคร เข้ามาทำร้ายคนของตนได้ยังไง จักรบอกว่าแค่มาเจรจา รองอนันต์ถามว่าต้องการอะไร วิญญูตอบแทนว่า

“ตำแหน่งรองนายกฯ! ท่านรองนายกฯอนันต์ ท่านทำงานเหนื่อยมามาก ถึงเวลาต้องพักผ่อนอย่างสงบ” แล้วกระซิบเสียงเข้ม “พัก...ตลอดไป!!”

สิ้นเสียงวิญญู อนันต์ก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเป็นนิ่งฟังวิญญูอย่างสงบทุกถ้อยคำ!

ooooooo

ดาบ แหบได้รับคำสั่งให้พาแสงกล้าไปนิติเทคฯ กว่าจะเอาตัวไปถึงนิติเทคฯได้ก็เล่นเอาดาบเหนื่อย เมื่อไปถึง ดาบเอาใบส่งตัวยัดใส่มือให้ พูดกึ่งขู่กึ่งให้กำลังใจว่า

“ให้หมอเขาตรวจ แล้วเซ็นรับรองเสีย แค่นี้หมวดก็จะหมดทุกข์หมดโศกทำงานสืบสวนได้อย่างเดิมแล้ว” พยักพเยิดให้แสงกล้าลงจากรถ ตนจะเอารถไปจอดก่อนแล้วค่อยเจอกัน แสงกล้าแหงนมองชื่อสถาบันพึมพำ “ตรวจสภาพจิต” ถอนใจยาวแล้วเดินเข้าไปเซ็งๆ

ที่ อีกมุมหนึ่งหน้านิติเทคฯ ศพบอดี้การ์ดของอนันต์ถูกลำเลียงเข้ามารายแล้วรายเล่า ครู่เดียวคมศรก็พาอนันต์ที่ไม่ได้สติมา แจ้งแก่หัวหน้าหน่วยนิติเทคฯว่า

“สลบไม่ได้สติตั้งแต่เมื่อคืน คงต้องเอาตัวมารักษาที่นี่”

เจ้า หน้าที่ทุกคนต้องรับศพทำเอกสารกันวุ่นวายไปหมด แสงกล้าที่มานั่งรออยู่พยายามจะรายงานตัวกับพนักงานก็ไม่มีใครสนใจ เดินผ่านไปคนแล้วคนเล่า เขาแผดเสียงสบถ “โว้ยยยยย!!” อย่างหงุดหงิดก็ยังไม่มีใครสนใจอยู่ดี

การชันสูตรศพบอดี้การ์ดผลออกมาว่า ทุกศพอวัยวะภายในถูกทำลายอย่างรุนแรง คมศรแปลกใจมากเดินมาคุยกับแพรไพลิน เขาทักเธอ “สวัสดีครับแพร” เธอหันขวับสั่งหน้านิ่ง “หมอค่ะ...กรุณาเรียกฉันว่าหมอ”

ทั้งคู่มองหน้ากันนิ่งเหมือนมีความคุ้น เคยกันมาก่อน เพราะความจริงทั้งคู่เคยเป็นทั้งเพื่อนนักเรียนและเกือบจะชอบพอกัน แต่เพราะต่างมีทัศนคติและยึดมั่นทุ่มเทให้กับงานที่ตนชอบ จึงห่างกันไป

ส่วน รองอนันต์นั้น แพรไพลินถามคมศรอย่างไม่พอใจว่า รู้อยู่แล้วว่านิติเทคฯไม่รับดูแลคนไข้ แล้วทำไมไม่ส่งไปโรงพยาบาล คมศรชี้แจงว่านี่เป็นกรณีพิเศษ เพราะอนันต์เป็นรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงพรรคไททิวัตถ์ไม่ต้องการให้สื่อรู้ ว่าโดนทำร้าย

ทั้งคู่ต่อปากต่อคำกันด้วยเรื่องในอดีต คมศรพยายามสงบปากสงบคำ แพรไพลินฉีดยาใส่ทางสายน้ำเกลือ บอกว่า อีกสักพักก็น่าจะดีขึ้น สั่งคมศรให้ดูอาการให้ด้วย ถ้าท่านรองนายกฯฟื้นให้แมสเสจตามตนด้วย ว่าแล้วออกไปอย่างไม่แยแสคมศรที่พยายามจะคุยด้วย

รองอนันต์ยังนอนไม่ ได้สติอยู่บนเตียง แต่ที่มุมหนึ่ง ของโถงขมังเวทย์ เจ้าตัวกำลังหลับตาคล้ายทำสมาธิ ทันใดก็เบิกตาโพลงอย่างน่ากลัว เป็นเวลาเดียวกับที่อนันต์ลืมตาขึ้น แต่ดวงตาไร้แววเหม่อลอย เจ้าหน้าที่เข้ามาถามอย่างดีใจว่า

“ฟื้นแล้วเหรอคะท่านอนันต์”

อนันต์ซัดเจ้าหน้าที่โครมเดียวสลบคาที่ ล้มเสาน้ำเกลือ กระชากสายน้ำเกลือออก เดินทื่อออกจากห้องไป...

ooooooo

ที่ ห้องตรวจสภาพจิต แสงกล้ากำลังถูกแพรไพลินทดสอบจิต เธอชูรูปกราฟฟิกให้ดูทีละรูปถามว่าเป็นรูปอะไร แสงกล้าตอบยียวนกวนประสาทก็พยายามระงับอารมณ์

เมื่อแสงกล้าเอาใบส่งตัววางบนโต๊ะบอกให้รีบเซ็นเพราะตนยังมีงานต้องทำอีกเยอะ

แพร ไพลินเซ็น “ไม่ผ่าน” ให้เหตุผลว่าหมวดก้าวร้าว อีคิวต่ำ ไม่เหมาะจะทำอาชีพตำรวจ แสงกล้าโวยวายลั่นว่านั่นอนาคตทั้งชีวิตของตนเลยนะ เมื่อโวยวายไม่ได้ผลก็ทำปากหวานปะเหลาะแล้วขอให้แก้คำวินิจฉัยใหม่เพราะยัง ไงตนก็ต้องผ่านการตรวจ ยืนกรานจะไม่ยอมไปไหนทั้งสิ้นจนกว่าเธอจะยอมเซ็นให้ผ่าน

ระหว่างนั้น ขมังเวทย์กำลังแผ่คลื่นคุณไสยกระจาย ออกไปทั่ว แม้แต่สมิง จ่าหนุ่มใหญ่แห่งสำนักงานสืบสวนพิเศษที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บนถนนก็ยัง ถูกคลื่นคุณไสยที่ขมังเวทย์ปล่อยออกมากวนจนปวดหัวหนัก

รองอนันต์ที่เดิน ทื่อออกจากห้อง เดินตาแข็งไม่มีสติ เหมือนเดินมุ่งไปที่ใดที่หนึ่ง ดาบแหบกำลังป้ออยู่กับเจ้าหน้าที่สาวคนหนึ่งเหลือบเห็น รีบตามไปร้องเรียก ถูกรองอนันต์หันมาชกเปรี้ยงที่หน้า ที่ท้อง เตะเสยคางซ้ำจนสลบเหมือด ก้มหยิบปืนที่เอวดาบเดินทื่อต่อไป เจ้าหน้าที่มาห้ามก็ถูกยิงที่ไหล่จนทรุด แล้วเดินบ่ายหน้าขึ้นไปที่ดาดฟ้า

เจ้าหน้าที่หลายคนกรูกันจะเข้าไปขวาง ถูกรองอนันต์ยิงเปรี้ยงๆๆๆ บ้างบาดเจ็บ บ้างชะงักหาที่กำบัง

สมิงปวดหัวมาก เขาเปลี่ยนเป็นขับรถเก็บขยะมุ่งหน้าไปยังที่มาของคลื่นคุณไสยที่แรงขึ้นทุกที!

ขณะแพรไพลินกับแสงกล้ากำลังขัดแย้งเขม็งเกลียวนั่นเอง กุ๊บกิ๊บหน้าตื่นเข้ามาบอกแพรไพลินว่า

“คุณหมอคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว ท่านรองนายกฯคลุ้งคลั่งยิงคนไปทั่ว ตอนนี้กำลังอยู่บนดาดฟ้าค่ะ”

ทั้งแพรไพลินและแสงกล้าต่างตกใจลืมเรื่องของตัวเอง รีบออกไปทันที

ooooooo

บนดาดฟ้า รองอนันต์ยิงเปิดทางตรงไปยังขอบดาดฟ้า เจ้าหน้าที่ตะโกนเตือนสติว่า อันตราย! อย่าโดด!

แพรไพลินมาถึงเดินตรงไปเผชิญหน้ากับรองอนันต์อย่างไม่หวาดกลัวปืนในมือบอกให้พอเถอะ แสงกล้าร้องเตือนว่า

“จิตวิทยาของหมอไม่ได้ผลหรอก”

“หุบปาก!” เธอตวาด แล้วหันไปทางรองอนันต์ “นี่ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของท่าน...ท่านกำลังเครียด...ทำจิตใจให้สบาย ไม่มีใครทำร้ายท่านสักคนนะคะ”

ด้านขมังเวทย์เร่งร่ายมนต์ แผ่คลื่นคุณไสยกระจายไปทั่วบริเวณ สมิงที่ขับรถเก็บขยะตรงมาที่นิติเทคฯปวดหัวรุนแรงขึ้นทุกที แต่พยายามกัดฟันขับต่อไป

บนดาดฟ้านิติเทคฯรองอนันต์ถูกคลื่นคุณไสยร้องลั่น หันกระบอกปืนจ่อมาทางแพรไพลิน แสงกล้าตะโกนให้ระวัง พลันก็กระโจนเข้าเอาตัวบังเธอไว้ รอง อนันต์ลั่นไกทันที กระสุนถูกแสงกล้าที่หัวไหล่เลือดพุ่งกระฉูด

“หมวดแสงกล้า! คุณช่วยชีวิตฉัน...” แพรไพลิน ประคองแสงกล้าที่ยังเอาตัวบังกระสุนให้เธอ เขายิ้มนิดๆ บอกว่า

“ยังไม่ใช่เวลาซึ้งครับหมอ”

รองอนันต์วาดปืนในมือเหยียดตรง กำลังจะยิงใส่ทั้งคู่อีก!

ขมังเวทย์ทำพิธีต่อเนื่อง รังสีอำมหิตกระจายไปทั่ว สมิงยิ่งปวดหัวหนัก พอขับรถเก็บขยะมาถึงหน้านิติเทคฯ ก็กระโดดลงจากรถ แหงนหน้าตั้งบ่ามองขึ้นไปบนดาดฟ้า เหมือนล่วงรู้ถึงเหตุการณ์วิกฤติบนนั้น

“หยุด!เลิกบ้าได้แล้ว!” แสงกล้าตะโกนก้อง น่าแปลกที่จู่ๆนิ้วรองอนันต์ที่กำลังเหนี่ยวไกก็ชะงัก แสงกล้าตะโกนอีก “เป็นถึงรองนากยกฯทำอะไรสิ้นคิด! ถ้าจะบ้าก็ฆ่าตัวตายไปเลย อย่าทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนแบบนี้” เห็นรองอนันต์ชะงักคล้ายสติกำลังจะกลับคืนมา แสงกล้าตะโกนย้ำ “เลิกบ้าเสียที!ท่านคือรองนายกรัฐมนตรีนะครับ”

แสงกล้าจ้องรองอนันต์เขม็งตลอดเวลา รองอนันต์ท่าทีอ่อนลงเรื่อยๆ ขมังเวทย์ที่ทำพิธีอยู่สีหน้าแปลกใจ แววตาเครียด พึมพำ

“เด็กหนุ่มคนนั้น...พลังลึกลับ...แกไม่มีวันเอา ชนะฉัน!”

แสงกล้าบอกให้รองอนันต์ส่งปืนมา รองอนันต์ส่งปืนให้งงๆ ท่าทางอ่อนเพลีย เสี้ยวนาทีที่แสงกล้าละสายตาจากรองอนันต์รับปืนหันส่งให้อีกคนที่อยู่ใกล้ๆนั้น รองอนันต์ก็ถูกขมังเวทย์ทำพิธีขั้นเด็ดขาด ไม่มีสติตาขวางวิ่งไปกระโดดจากดาดฟ้าทันที!!

สมิงที่กำลังแหงนมองดาดฟ้าอยู่เบิกตาโพลง เมื่อเห็นร่างรองอนันต์ลอยละลิ่วลงมา!

ขมังเวทย์ที่ทำพิธีลืมตาขึ้นอย่างเร็ว ยิ้มพอใจที่ทำทุกอย่างสำเร็จเสร็จสิ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ระเบิดหัวเราะกึกก้อง...“ฮ่าๆๆๆ!!”

ooooooo

ที่ห้องประชุมพรรคไทธิวัตถ์ กำลังมีการประชุมคณะรัฐมนตรี เมฆาขอมติจากคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ ถูกจักรทักท้วงว่าถามรองอนันต์หรือยัง

จักรทักท้วงถึงสองครั้งอย่างรู้สถานการณ์ เมื่อเมฆายืนยันขอมติ จักรถามจี้ว่าท่านอนันต์ไปไหน ทำไมไม่เข้าร่วมประชุมทั้งๆที่เป็นนัดสำคัญ เมื่อเมฆาอึกอัก จักรรุกหนักว่า การประชุมนัดสำคัญรองอนันต์เป็นถึงรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงไม่เข้าร่วมประชุม ภาพลักษณ์ของเมฆาในฐานะนายกรัฐมนตรีในสายตาสังคมภายนอกจะไม่สง่างาม

ขณะนั้นเอง คมศรที่นั่งอยู่ด้านหลังเมฆาได้รับสัญญาณโทรศัพท์ ฟังปลายสายแล้วสีหน้าไม่ดี เมฆาดูออกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น คมศรกระซิบบางอย่างแก่เมฆา เมฆาแจ้งแก่ที่ประชุมทันทีว่า

“ขอพักประชุม 30 นาที...มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นที่นิติเทค”

จักรมองเมฆาที่เดินออกไปกับคมศรอย่างรีบร้อนด้วยความสะใจ

เมฆาสั่งคมศรให้แจ้ง ผบ.รวิเตรียมรายงานเรื่องทั้งหมด ตนจะเข้าไปสำนักงานสืบบ่ายนี้ ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ยกเลิก บอกคมศรว่า “ผมต้องรู้ให้ได้ว่าทำไมรองอนันต์ถึงได้คลุ้มคลั่งแบบนั้น”

ที่ห้องประชุมสำนักงานสืบสวนพิเศษ รวิกำลังคุยอยู่กับคราม วิน และตำรวจสืบสวนอีกหลายนาย

รวิถามเรื่องที่รับตัวรองอนันต์เข้ารักษาโดยที่ตนไม่รู้เรื่อง  ครามชี้แจงว่าแพรไพลินแจ้งว่าเป็นเรื่องฉุกเฉิน เลขาฯนายกฯกำลังจะทำจดหมายแจ้งเป็นทางการแต่เกิดเรื่องเสียก่อน
ปัญหาที่รองอนันต์เกิดอาการคลุ้มคลั่งกลายเป็นประเด็นที่ ผบ.รวิสั่งสอบสวนด่วน ต้องรู้ให้ได้ว่าแพรไพลินให้ยาอะไรกับรองอนันต์ ครามติงว่า ผบ.กำลังสงสัย

ผู้อำนวยการนิติเทคฯ? ถูกรวิย้อนถามหน้าเครียดว่า

“ก็ถ้าจู่ๆคนปกติกลายเป็นคนวิกลจริตหลังจากได้รับยาบำรุง เป็นผู้กอง...ผู้กองจะสงสัยไหม?”

ooooooo

สื่อมวลชนโดยเฉพาะทีวีรายงานข่าวอย่างครึก-โครม น้ำใสรายงานอย่างตื่นเต้นอยู่หน้านิติเทคฯว่า

“ไม่น่าเชื่อว่าท่านอนันต์จะรอดชีวิต...เพราะร่างตกลงมายังรถเก็บขยะคันนี้ค่ะ” เธอชี้ไปที่รถเก็บขยะที่สมิงขับมา “เบื้องต้นไม่มีใครทราบว่ารถเก็บขยะคันนี้มาจอดที่นี่ได้ยังไงค่ะ”

จักรกับวิญญูที่กำลังกระหยิ่มกับตำแหน่งรองนายกฯดูทีวีแล้วชะงัก วิญญูพึมพำว่าเป็นไปได้ยังไง สมิงยืนกอดอกแอบฟังอยู่ วิญญูรู้สึกได้ถึงกระแสบางอย่าง จ้องไปยังจุดที่สมิงยืนอยู่เขม็ง!

เมฆาคุยโทรศัพท์กับห้องผ่าตัดในนิติเทคฯขณะเดินทาง ถามอาการของรองอนันต์ แพรไพลินรายงานว่า

“ศีรษะได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ขาหักทั้งสองข้าง เรากำลังรอผลซีทีสแกนสมองอยู่ค่ะ”

เมฆากำชับว่า ชีวิตของรองอนันต์ขึ้นอยู่กับเธอ แพรไพลินรับปากจะทำให้ดีที่สุด จากนั้นเมฆาไปเยี่ยมรองอนันต์ สั่งคมศรให้เลื่อนนัดประชุมที่สำนักงานสืบสวนพิเศษไปอีกครึ่งชั่วโมง

No comments:

Post a Comment